ระบบการศึกษาของญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น ประเทศที่ถือว่ามีระบบการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย

ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่ถือว่ามีระบบการศึกษาที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย จึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนไทยหลายคนเลือกที่จะไปเรียนต่อ และหาความรู้ในประเทศนี้กันเป็นอย่างมาก

ซึ่งระบบการศึกษาของญี่ปุ่น ก็เคยด้อยประสิทธิภาพและมีปัญหาเช่นกัน จนกระทั่งมาปรับปรุงขนานใหญ่เมื่อปี 2545 โดยมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง สรุปมาเป็นข้อๆพอเข้าใจได้ดังนี้

1. ญี่ปุ่นถึงแม้จะเป็นชาตินิยม แต่ก็เน้นสอนภาษาอังกฤษมากขึ้น เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของนานาชาติ

2. มีการส่งเสริมการอ่าน ให้นักเรียนอ่านหนังสือตอนเช้าก่อนเข้าห้องเรียน โดยรัฐบาลให้เงินสนับสนุนซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดเพิ่มปีละ 4,810 ล้านบาท

3. ลดเวลาเรียนเหลือสัปดาห์ละ 5 วัน แต่เน้นความสำคัญว่าเด็กทุกคน ต้องรู้จริง

ระบบการศึกษาของญี่ปุ่น

4. การเรียนการสอนจะแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มย่อยตามความสามารถ จะได้รู้ว่าเด็กสนใจเรื่องอะไร แล้วส่งเสริมให้ผู้เรียนคิดเอง และมีความคิดสร้างสรรค์

5. ห้องเรียนโดยเฉพาะวิชาเลข และภาษาญี่ปุ่น จะมีครู 2 คน คนหนึ่งคอยสอนโดยปกติ ส่วนอีกคนคอยดูเด็กที่เรียนไม่ทัน เพื่อช่วยเหลือพวกเขา

6. มีการจ้างครูเกษียณอายุมาช่วยดู โดยทำหน้าที่เป็นโค้ชให้คำแนะนำครูที่กำลังสอน เพื่อแนะแนวชี้ข้อบกพร่อง และแนวทางการสอนที่ดี

7. เน้นการสอนเทคโนโลยี-สารสนเทศ ให้เด็กได้ใช้อุปกรณ์ไอทีอย่างเชี่ยวชาญ ตรงกับชื่อเสียงของประเทศที่ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำสมัยมากมาย

จะเห็นได้ว่าการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการศึกษาครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น ที่ สรุปมาให้ดูทั้ง 7 ข้อนี้ เป็นการแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมา และตรงจุดบอดเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น ทำให้ปัจจุบันญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดี และเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของโลก มีสถาบันติดอันดับ 1 ในเอเชีย และน่าไปเรียนต่ออีกประเทศหนึ่งเลยทีเดียว

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ scuolaappiavecchia.com

Releated